วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560

คำบอกหน้าที่ (kata tugas)

คำบอกหน้าที่คือเป็นกลุ่มคำที่มีอยู่ในประโยคที่สำคัญเพราะคำบอกหน้าที่เป็นวากยสัมพันธ์ คำบอกหน้าที่จะเสนออยู่ในประโยค พร้อมกับเป็นการนำหน้าประโยคของ วลี หรือหลังประโยค ที่แน่นอนเพื่อทำให้ความหมายพิเศษหรือ สอดคล้องกับบทบาท วากยสัมพันธ์ที่แน่นอนในประโยคดังกล่าว คือกลุ่มคำที่มีการเปลี่ยนเทียบ จากคำนาม คำกริยา และคำคุณศัพท์คำเหล่านี้ไม่มีโครงสร้างเสมือนองค์ประกอบในการวลี

1.kata penyembung ayat คำสันธาน
       1.1  kata hubung  คำเชื่อมคำและประโยค
                     : คือเป็นคำเชื่อมต่อประโยค คือจำนวนคำที่บอกหน้าที่เชื่อมต่อกัน สแงประโยค หรือมากกว่า สองประโยคขึ้นไป
  เช่น ซากี อาเดล และ อิรฟาน ไปยังโรงเรียน
            :  Zaki Adil dan irafan pergi kesekolah.

2. kata prakiausa กลุ่มคำที่ปรากฏอยู่หน่าประโยคและปฏิบัติงานเฉพาะอย่าง
            2.1 kata seru   คำอุทาน
                   : คำที่ใช้บอกความรู้สึกของแต่ละคน เช่น โกรธ เจ็บปวด มีความสุข สงสัย สนใจ และอื่นๆวิธีการนำมาใช้ให้เหมาะสมกับ กระเสียงที่พูดนั้น คือ พร้อมโทนเสียงสูงหรือลดลง
      เช่น: ว้าย ! คนนี้ขี้เหนียวจัง
      :  Amboi, kedekutnya orang itu!

                 2.2 kata Tanya   คำที่ใช้ตั้งคำถาม
                  : คำที่ใช้เพื่อถามในการตั้งคำถาม เช่น ทำไม   เท่าไหร่ เมื่อไหร่ อย่างไร
  เช่น ; เขาอยู่ประเทศนี้กี่ปีแล้ว
         :Berapa tahunkah dia berada di luar Negara ?

              2.3 kata perintah   คำที่ใช้สั่ง
               : เป็นคำใช้ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อทำให้เกิดการตอบสนองต่อคำสั่ง ทิศทางการห้าม เชิญ หรือคำขอร้อง
             เช่น :ได้โปรดอย่ามาเล่นบริเวณนี้
                    Jangan kamu bermain di kawasan ini.


             2.4 kata pembenar   คำแท้จริงหรือ คำที่ใช้เพื่อการยอมรับ
             : เป็นคำที่ให้สัตยาบัน สิ่งใดสิ่งหนึ่งในการตั้งคำถาม ตัวอย่าง คำแท้จริง คือ ใช่ จริง และ ถูกต้อง
   เช่น : ใช่, พรุ่งนี้คุณหยุดได้
            :Ya, Esok awak boleh bercuti.

               2.5 kata pangkal ayat   คำเริ่มต้นประโยค
                : เป็นคำที่ใช้ ที่ปรากฏที่ต้นประโยค คำที่เป็นเครื่องหมาย ความต่อเนื่อง ในประโยค บทสนทนา แต่ คำที่ขึ้นต้นประโยคไม่ค่อยมีใช้ในปัจจุบัน ประโยคนี้จะเป็นประโยคทั่วไปที่ใช้ ในภาษามลายู คลาสิค ตัวอย่าง ครั้นแล้ว แล้วก็ เมื่อ ต่อไป และอื่นๆ
 เช่น: พระราชวังนั้นพร้อมแล้ว
     :  Hatta istana itu pun siaplah.

3. kata pascakata คำปรากฏอยู่หลังจากประโยคและปฏิบัติงานเฉาพะอย่าง
           3.1  kata pembenda คำอื่นที่ถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของคำนาม
         เป็นลักษณะคำที่เป็นประโยคบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่คำนามแต่เปรียบเสมือน คำนาม 
 เช่น : มาถึงอย่างกะทันหัน
          Datangnya secara mendadak

                3.2  kata  penekan  คำที่ไปยืนยันและเสริมพลังความหมายประโยค เช่น แท้จริงแล้ว
              คือคำที่มีการผสมกับคำเติมหรือผ่านการเติมคำ
           เช่น bukanya
                  Sesungguhnya
                  Hebatnya

 4. kata prafrasa คำที่ใช้นำหน้าประโยค เพื่อให้สัมพันธ์กับอีกประหนึ่ง
                 4.1 kata bentu   คำพุบบทแสดงกาลเวลา และบอกความเกี่ยวเนื่อง
          : เป็นคำที่ทำหน้าที่ช่วยวลีกริยา วลีคุณศัพท์ และวลีบุพบท  นั้นคือ เป็นคำที่ความหมายปรากฏจากการบอกลาหรือ ความรู้สึก
เช่น : ฉันเคยไปประเทสมาเลเซียเหนือ
       Kami  pernah ke utara Malaysia.

                 4.2 kata peguat   คำบอกความถี่  
              :เป็นกลุ่มคำที่ใช้สำหรับขยาบความหมาย ที่มีอยู่ในคำคุณศัพท์
   เช่น :  ต้นไม้นั้นสูงมาก
              Pokok itu terlalu tinggi.

                    4.3 kata penegas   คำที่หน้าที่เน้นประโยค
                : กลุ่มคำที่ใช้สำหรับให้ความสัมพันธ์ในส่วนที่เฉพาะเจาะจงในประโยค
  เช่น : นี้แหละคือภรรยาที่ผมรัก
         Inilah isteri kesayanganku.

                 4.4  kata nafi   คำที่ใช้สำหรับการปฏิเสธความหมาย
           : คำที่ใช้สำหรับปฏิเสธวลีที่มีโครงสร้าง ประโยค คือ นามวลี  วลีกริยา วลีคุณศัพท์ วลีบุพบท
   เช่น: ผู้ชายที่ใส่เสื้อสีแดงนั้นไม่ใช่พ่อของฉัน                                                 
    Lelaki yang berbaju merah itu bukan  ayah saya.

             4.5  kata pemeri  คำที่อยู่หน้าประโยค ใช้เพื่ออธิบายความหมายประโยค
      : เป็นโครงสร้างที่เชื่อมต่อระหว่างประธานของประโยคกับวลี แรกในคำกริยาประโยคประกอบ 2 ชนิดคือ ialah และ adalah
   เช่น : เขาคนนั้นเป็นครู
        Dia ialah seorang guru.

          4.6  kata sendi nama  คำบุพบท
          : เป็นคำที่ใช้เพื่อเชื่อมกับวลีนาม กับคำหรือวลีในประโยค คำบุพบทเป็นวลีนามที่รูปร่างเหมือนกับคำกริยาประโยค
เช่น: ดั้งเดิมเขาเป็นคนมาเลเซีย
    Dia berasal dari  Malaysia.

             4.7 kata arah   คำบอกทิศทาง
       :เป็นกลุ่มคำที่ใช้ปรากฏหน้าวลีนาม และในคำบุพบท เพื่อชี้แจงไปในทิศทางหรือทิศทางบางอย่าง
เช่น : สำรับทั้งหมดเตรียมไว้  บน โต๊ะแล้ว
   Semua hidangan itu diletakkan di atas meja.

               4.8 kata bilagan   คำบอกจำนวน
            : เป็นคำที่ขยายจำนวนนับหรือกลุ่มคน สิ่งของ และบางสิ่งบางอย่าง
        เช่น : ฉันได้ปลูกต้นมะพร้าวที่สวน  2 ต้น
        Saya menanam dua batang pokok kelapa di kebun

     4.9 kata adverba   คำวิเศษ
             : เป็นคำขยายคำกริยา คำคุณศํพท์ คำนาม และวลี บุพบทในส่วนวิธิการ เวลา และสถานที่
เช่น : รถบัสคันนั้นไปเร็ว
        Bas itu bergerak laju.
                                                                  
                                             อ่างอิง
                                                   https://www.scribd.com/doc/25768126/Golongan-Kata-Kata-Tugas

                                                                                   http://bmkatatugas.weebly.com/contoh-contoh.html





คำคุณศัพท์   (KATA ADJEKTIF)

1.  คำคุณศัพท์ ก็เรียกว่าเป็นคำบอกคุณลักษณะ       
2. มันถูกใช้เพื่ออธิบายลักษณะบางสิ่งบางอย่างของสิ่งของ คน สถานที่ และอื่นๆ
3. คำศัพท์สามารถเพิ่มด้วยคำขยายเช่น   ter-,se-,amat,paling, sangat,sekali,sungguh ,terlalu
  เช่น: ทัศนียภาพที่นี้สวยงามมาก
          : pemandangan di sini amat indah
4.คำคุณศัพท์ก็ยังสามารถมาพร้อมกับคำช่วย เช่น masih ,belum ,dapat.
 เช่น: เสื้อของฉันยังคงเปียก
     ; Baju saya masih basah
5.คำขยายและคำช่วยสามารถเขียนพร้อมกับคำคุณศัพท์
6.ในภาษามลายู คำคุณศัพท์สามารถแบ่งออกเป็นได้ 9 ชนิด ขึ้นอยู่กับความหมายบางสิ่งบางอย่าง คำคุณศัพท์ที่สัมพันธ์ และชนิดคำคุณศัพท์ก็มีดังต่อไปนี้


ชนิด  Jenis
ตัวอย่าง contuh
ตัวอย่างประโยค  Ayat contuh
        1.    คำคุณศัพท์แสดงถึงถึงรูปลักษณะ
          (Bentuk)

มุม (Bujur), กลม(bulat),
รอบ(bundar) , อ้วน(buncit), โค้ง(bengkok),  ตรง(lurus),
แบน(leper),  วงรี(lonjong).



ไม้ที่ถูกเหลานั้นนั้นตรมาก
1.Kayu yang dirautnya itu sangat lurus.
ยามัลตีท่อนเหล็กจนโค้งงอ
2.jamal menarik batang besi itu sehingg bengkok.

       2.    คำคูณศัพท์แสดงถึงลักษณะของเวลา
              (Cara)

เร็ว(Cepat), เร็ว(laju
ระมัดระวัง(cermat),),
ช้า(lambat), เร็ว(deras),
ช้า(perlahan) มักจะ(sering)
ทันที(selalu),รวดเร็ว(gopoh),
 ชัดเจน(jelas).


    อัสมาขับรถอย่างระมัดระวัง
1.Asma kenderaan dengan cermat.
      ฟาอีซะห์ มาบ้านฉันทันที
2.Faizah selalu datang ke rumah saya.
       3.    คำคุณศัพท์แสดงถึงลักษณะความรู้สึก
(Perasaan)
เกลียด(Benci), ตื่นเต้น(gelisah) ,รัก(kasih),ห่วงใย(sayang),
คิดถึง(Rindu), น่าสงสัย(ragu),
ขี้อาย(segan), หัวเราะ(suka).
    อิสหะรักภรรยาของเขามาก
1.Isahak amat kasih akan isterinya.
มันโซคิดถึงลูกของเขาที่มีอยู่ที่หมู่บ้าน
2.Masor begitu rindu akan anaknya yang berada di kampung.
       4.    คำคุณศัพท์แสดงถึงรูปลักษณะ
(Sifat/keadaan)
ดี(Baik), ฉลาด(cerdik),
ชั่วร้าย(jahat), อ่อนแอ(lemah), 
อาย(malu),
เก่ง(pandai), หยิ่ง(sombong),
 รุนแรง(kasar), แข็งแรง(sihat).
     ถ้าเราอ่อนในการเรียนเราก็ต้องพยายามมากกว่านี้
1.sekiranya kita lemah dalam pelajaran,kita mestilah berusaha dengan lebih gigih.
      5     คำคุณศัพท์แสดงถึงขนาด
(Ukuran)
ใหญ่(Besar), เล็ก(kecil),
บาง(nipis), ยาว(panjang),
ต่ำ(rendah), หนา(tebal),
สูง(tinggi).
หนังสือนิยายเล่มนั้นเล็กและบาง
1.Buku cerita itu kecil dan nipis.
    6.คำคุณศัพท์แสดงลักษณะสี
            (warna)

น้ำเงิน(Biru), เขียว(hijau),
เหลือง(kuning).
นูราซีมาสวมใส่เสื้อสีเขียว
1.Norazima memakai baju berwarna hijau.
 7.คำคุณศัพท์แสดงถึงเวลา
              ( Waktu)
ก่อน(Awal), พึ่ง(baru),
นี้(kini), นาน(lama), อดี(lampau),
ขณะนี้(sekarang),ทันที(Segera) ,มาแล้ว(silam).
   กรุณาส่งจดหมายฉบับนี้ทันที
1.Tolong hantarkan surat ini dengan segera.
  ขณะนี้ฉันต้องการไปที่สำนักงาน
2.sekarang saya hendak ke pejapat.
8. คำคุณศัพท์แสดงถึงระยะทาง
                   (Jarak)
ไกล(Jauh), เกือบจะ(hamper), ใกล้(dekat), เกือบ(nyarir).
เด็กผู้ชายคนนั้นเกือบจะถูกรถชน
1.budak itu nyaris lagi dilanggar kerata.
ศูนย์การกีฬานั้นค่อนข้างไกลจากตัวเมือง
2.kompleks sukan itu agak jauh dari bandar.


   9. คำคุณศัพท์ แสดงถึงรสชาติหรือประสาทสัมผัส
        (Pancaindra)

การมองเห็น
pandangan
เก่า(Buruk)
สวย(cantik),
ขี้เหร่(hodoh),
ห้าว(kacak).
ภาพวาดที่ฉันซื้อนั้นสวยจริงๆ
 Lukusan yang dibelinya sungguh cantik.
การได้ยิน
Pendengaran
เสียงดัง(Bising), ไพเราะ(merdu).
  น้องของฉันร้องเพลงอย่างไพเราะ
Adik saya nyanyi lagu yang merdu.
การลิ้มรส
    Rasa

หวาน(Manis),
เปรี้ยว(masam)
เค็ม(masin),
เผ็ด(pedas),
 จืด(tawar),
ขม(kelat).
อย่ากินอาหารหวานมากจนเกินไป
Jangan terlalu banyak makan makanan yang manis.
การได้กลิ่น
    Bau


เหม็น(Busuk),
เหม็นสา(hapak)
หอม(harum),
หอม(wangi).
ดอกไม้ที่เขาเด็ดมีกลิ่นหอมมาก
Bunga yang dipetiknya itu sungguh harum.
การแตะต้อง
sentuh
หยาบ(Kasar),
แข็ง(keras),
ลื้น(licin).
อาลีล้มเพราะพื้นลื้น
Ali terjatuh kerana
permukaan lantai itu licin.
การรวมกัน
gabungan
Aman, tenteram,
nyaman selesa
   ฉันไม่สบายใจที่อยู่ในห้องของคุณ
Saya berada kurang selesa berada di dalam bilikmitu.


                                                                                       อ้างอิง

                                                        http://sarifudinhasbullah.blogspot.com/p/kata-adjektif_27.html#